วันพฤหัสบดีที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ประวัติวันวาเลนไทน์


วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันแห่งควารัก หรือวาเลนไทน์เดย์ ..
คิวปิด..ถือเป็นสัญลักษณ์ของความรัก เป็นบุตรของวีนัสและมาร์ส แต่..ชาวกรีกเรียกคิวปิดว่า อีรอส
ภาพของคิวปิดที่มนุษย์โลกรู้จักในยุคปัจจุบันคือ เด็กน้อยถือคันธนูและลูกศร มีหน้าที่ยิงศรรักให้ปักใจคน..
เทศกาลวาเลนไทน์เริ่มมีขึ้นตั้งแต่ยุคจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ
ในยุคนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุดเพื่อเป็นเกียรติแด่เทพเจ้าจูโน ผู้เป็นจักวรรดินี แห่งเทพเจ้าโรมัน
พระองค์ทรงเป็นเจ้าแห่งอิสตรีและการแต่งงาน
และในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เป็นวันต้นเทศกาลเฉลิมฉลองแห่งลูเพอร์คาร์เลีย การดำเนินชีวิตของหนุ่มสาวจะถูกตัดขาดออกจากกันอย่างสิ้นเชิง ในรัชสมัย จักรพรรดิคลอดิอัส ที่2 แห่งกรุงโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่ใจคอดุร้าย และทรงนิยมการทำสงครามเลือด ได้ทรงตระหนักว่าเหตุที่ชายหนุ่มส่วนใหญ่
ไม่ประสงค์เข้าร่วมในกองทัพ เนื่องจากไม่อยากจากคู่รัก และครอบครัวไป จึงมีราชองการ สั่งห้ามมิให้มี
พิธีหมั้นและแต่งงานกันในโรมเด็ดขาด ทำให้ประชาชนทุกขืใจเป็นอย่างยิ่ง และขณะนั้นมีนักบุญรูปหนึ่ง
นามว่า"วาเลนไทน์" หรือวาเลนตินัส ซึ่งอาศัยอยู่ในโรมได้ร่วมมือกับเซนต์มาริอัส จัดพิธีแต่งงานให้กับชาวคริสต์หลายคู่ และด้วยความปรารถนาดีนี่เอง จึงทำให้วาเลนไทน์ถูกจับ และระหว่างนี้ก็ยังคงส่งการ์ดอวยพร วาเลนไทน์ของเขาเอง ขณะที่เขาเป็นนักโทษ เป็นความเชื่อว่าวาเลนไทน์ ได้ตกหลุมรักหยฺงสาวที่เป็นลูกสาวของผุ้คุมที่ชื่อ จูเลีย ซึ่งได้มาเยี่ยมเขาระหว่างที่ถูกคุมขัง ในคืนที่วาเลนไทน์จะสิ้นชีวิตลงโดยการตัดศรีษะ เขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึงจุเลียโดยลงท้ายว่า ..
FROM YOUR VALETINE..
14  กุมภาพันธ์ คศ.270 หลังจากนั้นศพของเขาได้ถูกเก็บไว้ที่โบสถ์พราซีเดส ณ กรุงโรม จูเลียได้ปลูกต้นอามันต์หรืออัลมอลต์สีชมพู ไว้ใกล้หลุมศพของวาเลนตินัส แด่ผู้เป็นที่รักของเธอ โดยทุกวันนี้ต้นอัลมันต์สีชมพูได้เป็นตัวแทน แห่งรักนิรันดร์และมิตรภาพอันสายงาม และคำนี้ก้เป้นคำที่ใช้มาจนถึงทุกวันนี้.....ถึงแม้เบื้องหลัง ความจริงของวาเลนไทน์ จะเป็นตำนานที่มืดมัว  แต่เรื่องราวยังคงแสดงให้เห็นถึงความสงสาร ความกล้าหาญ และที่สำคัญคือความโรแมนติค จึงไม่น่าประหลาดใจเลยว่าทำไมในยุคกลางนักบุญวาเลนไทน์จึงมีชื่อเสียงมากที่สุด ทั้งในอังกฤษและฝรั่งเศส  ต่อมาพระนิกายโรมันคาทอลิคจึงเลือกให้ วันที่ 14 กุมภาพันธ์ เป็นวันเลิมฉลองเทศกาลแห่งความรัก  และดูเหมือนว่าคงเป็นธรรมเนียมที่ชายหนุ่มจะเลือสาวที่ตนพึงพอใจในวันวาเลนไทน์ มาจนทุกวันนี้...

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ31 กรกฎาคม 2558 เวลา 10:17

    แต่ปัจจุบันคนใช้ผิดความหมายที่มากันเยอะ

    ตอบลบ